วันศุกร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2557

เครือข่าย Token Bus และ Token Ring

เครือข่าย Token Bus และ Token Ring
Token Bus and Token Ring
(IEEE 802.4, IEEE 802.5)หลักการพื้นฐานและความเป็นมา802.4 เป็นระบบเครือข่ายที่ เปิดโอกาสให้สถานีต่างๆ ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันส่งเฟรมข้อมูลของตนเองโดยสามารถคำนวณระยะเวลาการรอคอยสูงสุดได้ล่วงหน้า   ถ้าสมมุติให้มีสถานีจำนวน n แห่งอยู่ในระบบ  แต่ละสถานีใช้เวลาในการส่งเฟรมข้อมูลครั้งละ T วินาที เวลาสูงสุดที่แต่ละสถานีจะต้องรอคอยคือ nxT วินาที  ผู้ที่อยู่ในวงการคอมพิวเตอร์สำหรับโรงงานจึงชอบแนวความคิดของระบบเครื่อข่ายแบบวงแหวน  แต่ก็ไม่ชอบลักษณะการเชื่อมต่อทางกายภาพเพราะการเสียหายของเคเบิลที่จุดใดก็ตามจะทำให้ระบบทั้งระบบใช้การไม่ได้  ยิ่งกว่านั้นการเดินสายเคเบิลแบบวงแหวนก็ไม่เหมาะกับลักษณะสายการผลิตภายในโรงงาน ผลที่ได้รับคือ การพัฒนามาตรฐานใหม่เรียกว่า  802.4 ที่นำจุดเด่นของระบบ  802.3 มารวมเข้ากับความสามารถในการคำนวณระยะเวลาการรอคอยสูงสุดได้ล่วงหน้าของระบบวงแหวนการทำงานและหน้าที่ของ MAC ในรูปแบบ Token passing
Frame control (ฟิลด์ควบคุมเฟรม)ใช้แยกระหว่างเฟรมข้อมูลและเฟรมควบคุมการส่งข้อมูล เช่น ในกรณีของการส่งโทเคนไปยังสถานีที่มีแอดเดรสรองลงไปนั้นค่าของไบต์นี้จะมีค่า 00001000 เป็นต้นSource  address and Destination address คือ ที่อยู่ของผู้ส่ง และที่อยู่ของผู้รับ มีขนาดอย่างละ 6 ไบต์       IEEE เป็นผู้รับผิดชอบในการกำหนดที่อยู่สากล (global address) ซึ่งมีขอบเขตการใช้งานได้ทั่วโลกData มีความยาว 0-8182 ไบต์ คือข้อมูลที่รับจากชั้น LLC
Checksum   มีขนาด 4 ไบต์  มีไว้สำหรับการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลที่รับได้  ถ้าเกิดการผิดพลาดขึ้นในระหว่างการนำส่งข้อมูลในส่วนนี้จะช่วยให้ตรวจพบความผิดพลาดนี้ได้ เช่น CRC (Cyclic redundancy)
การทำงานและหน้าที่ของ MAC ในรูปแบบ Token passing
Data มีความยาว 0-4500 ไบต์ คือข้อมูลที่รับจากชั้น LLC
Checksum   มีขนาด 4 ไบต์  มีไว้สำหรับการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลที่รับได้  ถ้าเกิดการผิดพลาดขึ้นในระหว่างการนำส่งข้อมูลในส่วนนี้จะช่วยให้ตรวจพบความผิดพลาดนี้ได้ เช่น CRC (Cyclic redundancy)
Frame status  ใช้งาน 2 บิท (A, C) สำหรับควบคุมการส่งข้อมูล  โดยที่เมื่อฝั่งรับได้รับข้อมูล  มันจะกำหนดค่าของบิตภายในเพื่อบ่งบอกสภาวะของการรับเฟรมข้อมูล  ซึ่งค่าของบิตนี้มีได้  3  รูปแบบ  คือ§  ค่า A = 0  และ  C = 0  หมายความว่าปลายทางฝั่งรับไม่อยู่ในวงแหวน§  ค่า A= 1   และ  C = 0  หมายความว่าฝั่งรับอยู่ในวงแหวนแต่ไม่รับเฟรมนั้น ซึ่งอาจเป็นเพราะว่ามันไม่มีบัฟเฟอร์ว่างที่จะรับข้อมูล§  ค่า A = 1  และ  C = 1  หมายความว่าปลายทางรับข้อมูลแล้วหลักการเชื่อมต่อ  Token Bus, Token RingToken Bus        โดยลักษณะทางกายภาพ  โทเคนบัสมีการต่อเชื่อมแบบเป็นเส้นตรง  สถานีต่างๆ  เชื่อมต่อเข้าที่จุดใดๆ      แต่ในทางตรรกะ  สถานีจะถูกจัดกลุ่มในลักษณะวง  แต่ละสถานีจะทราบหมายเลขที่อยู่ของสถานีที่อยู่ทางด้ายซ้ายและด้านขวา  ของตนเองตลอดเวลา  เมื่อเริ่มต้นการทำงานสถานีที่มีหมายเลขสูงสุดของวงนั้นๆ  สามารถส่งเฟรมข้อมูลออกมาได้เป็นลำดับแรก   หลังจากนั้นจะส่งเฟรม  โทเคน”  ไปยังสถานีข้างเคียงของตนเอง



 FDDI (Fiber Distributed Data Interface)วงสำรอง (Backup Ring) สำหรับแก้ปัญหาเมื่อวงหลักเกิดขาด หรือใช้งานไม่ได้ โดยการส่งข้อมูลในวงสำรองแบบทิศทางตรงข้ามกับวงหลัก

ตัวกลางสื่อสารตัวกลางสื่อสารและฟิสิคัลเลเยอร์(Transmission medium and physical layer)


สายสื่อสารมาตรฐานการกำหนดมาตรฐานการใช้เครือข่าย LAN นั้นเกิดขึ้นจากการกำหนดมาตรฐานของเครือข่ายLAN โดยแยกออกเป็น 4 มาตรฐาน ได้แก่ มาตรฐาน 10BASE
 มาตรฐาน IEEE 802.4
 มาตรฐาน IEEE 802.5
 มาตรฐาน FDDI


มาตรฐาน 10BASEตารางสายมาตรฐาน10BASE ใน LAN มาตรฐาน IEEE 802.3(CSMA/CD)
มาตรฐาน IEEE 802.4ตารางสายสื่อสารมาตรฐานใน LAN มาตรฐาน IEEE 802.4 (Token Bus)


มาตรฐาน IEEE 802.5ตารางสายสื่อสารมาตรฐาน IEEE 802.5 (Token Passing)
มาตรฐาน FDDIตารางสายมาตรฐาน FDDI
   ประเภทของตัวกลางสื่อสาร(Classes of transmission media)
สื่อแบบใช้สาย (GUIDED MEDIA) สื่อแบบใช้สาย เป็นสื่อแบบมีท่อนำ (conduit) ในการเชื่อมโยงจากอุปกรณ์หนึ่ง ไปยังอุปกรณ์อื่น เช่น สายคู่พันเกลียว (twisted-pair cable), สายโคแอ็กเชียล (coaxial cable),สายใยแก้วนำแสง (fiber-optic cable)
      เครือข่าย Ethernet (IEEE 802.3)Ethernet Network (IEEE 802.3)หลักการพื้นฐานและความเป็นมามาตรฐาน IEEE 802.3 ออกแบบมาสำหรับระบบเครือข่ายเฉพาะบริเวณแบบCSMA/CD  ต้นกำเนิดของมาตรฐานนี้มาจากระบบอะโลฮ่า (Aloha)  ซึ่งได้รับการเพิ่มขีดความสามารถโดยบริษัท Xerox  เริ่มมาจากบริษัท Xerox ได้สร้างระบบเครือข่ายเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ 100 เครื่องในบริษัท โดยมีความยาวของเครือข่ายได้ถึง 1 กิโลเมตร และมีอัตราในการส่งข้อมูลถึง 2.94 Mbps ระบบนี้เรียกว่า อีเทอร์เน็ต (Ethernet)
               IEEE 802.3 EthernetLAN แบบนี้ส่งข้อมูลโดยใช้หลักการคล้ายๆ กับการสนทนาระหว่างบุคคลหลายคน หากใครต้องการพูดก็สามารถพูดออกมาได้ในจังหวะที่ไม่มีคนอื่นพูด(เงียบ) แต่ก็อาจเป็นไปได้ที่บุคคล 2 คนจะพูดออกมาพร้อมๆ กัน ทำให้เกิดการชนกันของเสียงพูด เมื่อเป็นเช่นนั้นทั้งสองคนจะต้องหยุดพูดทันที แล้วรอจังหวะที่จะพูดใหม่อีกครั้ง ซึ่งหากใครพูดก่อนก็จะสามารถพูดได้ และบุคคลอื่นๆ จะต้องฟังอย่างเดียว IEEE 802.3 Ethernetหลังจากการชนกันครั้งที่ 2 แต่ละสถานีจะสร้างตัวเลขสุ่มที่มีค่า 0,1,2หรือ 3 (นั่นคือเลขสุ่ม 2^2 ค่า) แล้วส่งข้อมูลภายในช่องเวลาของตนเอง หากชนกันอีกก็จะสร้างเลขสุ่มจำนวน 2^3 ค่า กล่าวคือหลังจากการชนกัน ครั้ง แต่ละสถานีก็จะมีการสร้างเลขสุ่มตั้งแต่ค่า 0 ถึง 2^i-1 ค่า และสถานีก็จะส่งข้อมูลภายในช่องเวลาของตนเอง กระบวนการในการแก้ไขการชนกันของข้อมูลแบบนี้เรียกว่า Binary Exponential Back off ซึ่งจะเห็นได้ว่ากระบวนการนี้ทำให้โอกาสในการที่จะเกิดการชนกันของข้อมูลมีน้อยลง เมื่อจำนวนครั้งของการชนกันของข้อมูลมากขึ้นการทำงานและหน้าที่ของ MACส่วนประกอบของเฟรมข้อมูลของ Ethernet
Preamble  มีความยาว 7 ไบต์ แต่ละไบต์จะมีข้อมูลเหมือนกันหมดคือ “10101010”  มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้รับได้มีโอกาสรู้และเทียบสัญญาณนาฬิกาของตนเองกับผู้ส่งให้ตรงกันStart of frame  มีความยาว 1 ไบต์  (10101011)  สำหรับบอกเครื่องรับ ระบุจุดเริ่มต้นของเฟรม  โดยไบต์ถัดจากนี้เป็นต้นไป คือ ข้อมูลการเชื่อมต่อและชนิดของเครือข่าย Ethernetคำว่า “Ethernet” นั้นอันที่จริงมีความหมายเกี่ยวข้องโดยตรงกับสายสื่อสาร  จากรูป แสดงคุณสมบัติของสายสื่อสาร 4 ชนิด ที่นิยมใช้กันทั่วไป ประเภทของสายสื่อสารที่ใช้กันทั่วไปสำหรับมาตรฐาน802.3
   การเชื่อมต่อและชนิดของเครือข่าย Ethernetการแบ่งเซกเมนต์ของ Ethernet      
 
ระยะต่างๆ ของการติดตั้งเครือข่าย Ethernet จะขึ้นอยู่กับมาตรฐาน โดยประกอบด้วยq  ระยะห่างระหว่างเครื่องq  ความยาวเซกเมนต์q  ความยาวสูงสุดq  จำนวนเครื่องสูงสุดการเชื่อมต่อและชนิดของเครือข่าย Ethernet10Base5: Thick Ethernet การเชื่อมต่อและชนิดของเครือข่าย Ethernet10Base5: Thick Ethernetแต่ละเซกเมนต์ยาวไม่เกิน 500 เมตรความยาวรวมทุกเซกเมนต์ไม่เกิน 2500 เมตรมีจำนวนเครื่องสูงสด 200 เครื่องในแต่ละเซกเมนต์ และทั้งหมดไม่เกิน 1000 เครื่องใช้สาย RG-8 เป็นสายหลักของเซกเมนต์การต่อไปยังเครื่องใช้ Transceiver ต่อออกจากสายหลัก หรือเรียกอุปกรณ์เหล่านี้ว่าMedium Attachment Unit (MAU)ใช้สาย AUI ต่อจาก MAU ไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์การเชื่อมต่อและชนิดของเครือข่าย Ethernet10Base2: Thin Ethernetการเชื่อมต่อและชนิดของเครือข่าย Ethernet10Base2: Thin Ethernetแต่ละเซกเมนต์ยาวไม่เกิน 185 เมตรใช้สาย RG-58 เป็นสายหลักของเซกเมนต์การต่อไปยังเครื่องใช้  BNC-T connector และต่อตรงเข้ากับแผ่นวงจรเครือข่ายของเครื่องคอมพิวเตอร์การเชื่อมต่อและชนิดของเครือข่าย Ethernet10Base-T: Twisted-Pair Ethernetการเชื่อมต่อและชนิดของเครือข่าย Ethernet10Base-T: Twisted-Pair Ethernetสายแต่ละเส้นที่ต่อออกจากอุปกรณ์กระจายสัญญาณยาวไม่เกิน 100เมตรใช้สาย UTP เป็นสายหลักของเซกเมนต์เข้าหัวสายด้วยหัวต่อ RJ-45การเชื่อมต่อและชนิดของเครือข่าย Ethernet1Base5: StarLANเป็นผลิตภัณฑ์ของ AT&T
มีความเร็ว 1 Mbps
เพิ่มขนาดของเครือข่ายแบบ Daisy chain
ใช้สาย UTP
การเชื่อมต่อและชนิดของเครือข่าย EthernetFast Ethernet (IEEE 802.3u) เนื่องจากในปัจจุบันมัลติมีเดียได้มีการใช้งานกันมาก จึงมีความต้องการเครือข่ายความเร็วสูงในการเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์เข้าด้วยกัน กลุ่มคณะทำงานของ IEEE จึงตัดสินใจที่จะปรับปรุงมาตรฐาน 802.3 ให้สามารถ รับส่งข้อมูลด้วยความเร็วสูงขึ้น ซึ่งกลายเป็นมาตรฐานที่เรียกว่า 802.3ซึ่งเรียกกันโดยทั่วไปว่า Fast Ethernet       
Fast Ethernet  อีเทอร์เน็ตรูปแบบหนึ่งที่มีความเร็วสูงถึง 100 Mbps รูปแบบของเฟรมข้อมูล หรือการควบคุมการชนกันของข้อมูลไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากอีเทอร์เน็ตปกติ เพียงแต่ลดเวลาการส่งข้อมูลของแต่ละบิตจาก 100    นาโนวินาที เป็น 10 นาโนวินาที จึงทำให้อัตราการส่งข้อมูลสูงขึ้น 10 เท่าจากเดิมการเชื่อมต่อและชนิดของเครือข่าย EthernetFast Ethernet (IEEE 802.3u) เป็น Ethernet ความเร็ว 100 Mbpsมีขนาดเฟรมน้อยที่สุด 72 Bytesใช้ Topology แบบ Starมี 3 มาตรฐานย่อย คือv  100Base-TX  ใช้สาย UTP แบบ CAT-5 หรือ STP จำนวน 2 คู่v  100Base-FX  ใช้สายใยแก้วนำแสง มีระยะทางไม่เกิน 2000 เมตรv  100Base-T4  ใช้สาย UTP แบบ CAT-3 จำนวน คู่ การเชื่อมต่อและชนิดของเครือข่าย EthernetGigabit Ethernet (IEEE 802.3g) เป็น Ethernet ความเร็ว 1000 Mbpsใช้ Topology แบบ Starมี 4 มาตรฐานย่อย คือv  1000Base-T    ใช้สาย UTP มีระยะสาย 25 เมตรv  1000Base-CX  ใช้สาย STP มีระยะสาย 25 เมตรv  1000Base-SX  สัญญาณแสงแบบ Short-wave Laser มีระยะสาย 550เมตร ใช้สายใยแก้วนำแสงแบบ multimodev  1000Base-LX สัญญาณแสงแบบ Long-wave Laser มีระยะสาย 550เมตร สำหรับสายใยแก้วนำแสงแบบ multimode  และระยะสาย 5000เมตร สำหรับสายใยแก้วนำแสงแบบ single mode International Organization for Standardization : ISOอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ของ Information Technologyระบบ IT ในปัจจุบัน สามารถ ตอบโจทย์การดำเนินธุรกิจได้ ในวงกว้าง แต่มีความ ซับซ้อนมากขึ้นกว่าเดิม หลายเท่าตัวดังนั้น การบริหารจัดการด้าน IT ในปัจจุบัน จะต้องตอบโจทย์อยู่ 2 ข้อ คือ Performance และ Conformance 

Audit COBIT

Audit COBIT 
Agenda
                    กรอบมาตรฐาน COBIT 4.1
                    ความเป็นมาขององค์กรและผังองค์กร
                    การวิเคราะห์กระบวนการทำงานด้าน IT
                    เปรียบเทียบกระบวนการทำงานกับ COBIT4.1 Process DS1
                    บทสรุปและข้อเสนอแนะ
                    แหล่งที่มาของข้อมูล
กรอบมาตรฐาน COBIT 4.1
                    มาตรฐาน COBIT เป็นทั้งแนวคิดและแนวทางการปฏิบัติ (Framework) เพื่อการควบคุมภายในที่ดีด้านเทคโนโลยีสำหรับองค์กรต่างๆ ที่จะใช้อ้างอิงถึงแนวทางการปฏิบัติที่ดี (Best Practice) ซึ่งสามารถนำไปปรับใช้ได้ในทุกองค์กรสำหรับกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสารสนเทศ
โครงสร้างของมาตรฐาน COBIT
                    การวางแผนและการจัดการองค์กร (PO : Planning and Organization)
                    การจัดหาและติดตั้ง (AI : Acquisition and Implementation)
                    การส่งมอบและบำรุงรักษา (DS : Delivery and Support)
                    การติดตามผล (ME : Monitor and Evaluate)
ความเป็นมาขององค์กร
บริษัท BHI จำกัด ดำเนินงานในธุรกิจเกี่ยวกับการให้บริการกับลูกค้าในด้านอุตสาหกรรมกลุ่มพลังงาน มีสำนักงานสาขาตั้งอยู่ทั่วโลกกว่า 90 ประเทศ โดยทำธุรกิจในการขายหัวเจาะที่ใช้ในการขุดเจาะและสำรวจ น้ำมันดิบ และแก๊สธรรมชาติ ให้บริการซ่อมบำรุงอุปกรณ์เครื่องมือที่ใช้ในการขุดเจาะ และสำรวจ รวมถึงการส่งพนักงานในตำแหน่งหน้าที่ที่แตกต่างกันไปให้บริการกับลูกค้าที่แท่นขุดเจาะตามแหล่งพลังงานทั่วไป เช่น การประกอบอุปกรณ์ที่จำเป็นในการขุดเจาะและสำรวจ ตลอดจนขั้นตอนการขุดเจาะตามแท่นขุดเจาะ
แผนผังองค์กร

ผู้เกี่ยวข้องกับในภาพรวมกับฝ่าย IT

                    Customer  พนักงานของบริษัทที่ต้องการรับบริการทางด้าน IT
                    Solution Center หน่วยงานรับแจ้งและแก้ไขปัญหาทางด้าน IT โดย Customer ต้องติดต่อหน่วยงานนี้โดยตรง ในการขอรับบริการ

                    IT Support หมายถึง ฝ่ายสนับสนุนการแก้ปัญหาด้าน IT โดยรับเรื่องที่ร้องขอต่อจาก Solution Center มาทำการวิเคราะห์และดำเนินการแก้ไข
                    IT Service Manager หมายถึง ผู้จัดการฝ่าย IT มีหน้าที่ความรับผิดชอบในการบริหารจัดการ เช่น การจัดทำแผนงบประมาณทางด้าน IT การจัดทำแผนสำรองในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน การติดตามประสิทธิภาพการทำงานจากรายงาน ตรวจสอบข้อตกลงการให้บริการ SLAs
ผู้เกี่ยวข้องกับในภาพรวมกับฝ่าย IT
                    CIO หมายถึง หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการทางด้าน IT มีหน้าที่ความรับผิดชอบในการบริหารจัดการ เช่น การวางแผนกลยุทธ์ทางด้าน IT การบริหารงบประมาณทางด้าน IT กำหนดข้อตกลงในการให้บริการในส่วนของ SLAs และ OLAs กำหนดหน้าที่และความรับผิดชอบของพนักงานฝ่าย IT
                    Business Executive หมายถึง ผู้บริหารระดับสูงของฝ่ายธุรกิจต่างๆในบริษัท มีอำนาจหน้าที่ในการตัดสินใจในการทำแผนกลยุทธ์และพิจารณาอนุมัติงบประมาณทางด้าน IT
การวิเคราะห์ กระบวนการทำงานด้าน IT ที่เกี่ยวข้องกับ DS1

กระบวนการที่เกี่ยวข้องกับ Solution Center

                    DS1.1 Service Level Management Framework
                    DS1.2 Definition of Services
                    DS1.3 Service Level Agreements
                    DS1.4 Operating Level Agreements
                    DS1.5 Monitoring and Reporting of Service Level Achievements
                    DS1.6 Review of Service Level Agreements and Contracts
เปรียบเทียบกระบวนการทำงานฝ่าย IT ของบรัท BHI
เทียบกับ COBIT 4.1 กระบวนการ DS1
เปรียบเทียบ Input
เปรียบเทียบ Output
บทสรุป
                    งาน IT  ค่อนข้างสอดคล้องกับกระบวนการ DS1 ของ COBIT 4.1 อย่างมาก
                    เอกสารต่างๆที่เป็น input และ output ที่ใช้ก็มีความคล้ายกันถึงโดยที่ชื่อเอกสารหรือกระบวนการอาจจะใช้ชื่อไม่เหมือนกับแต่ก็ถือว่ารูปแบบงานที่ต้องการและ
                    ผลลัพธ์ออกมาตรงกัน
                    บริษัทที่เป็นผู้ให้บริการในธุรกิจกลุ่มพลังงานจะถูกตรวจสอบโดยผู้ตรวจสอบทั้งภายในและภายนอกอยู่เป็นประจำทุกปีรวมถึงการกำกับดูแลข้อตกลงภายใต้ Securities and Exchange Commission (SEC) ซึ่งจะกำกับ ดูแลให้ความคุ้มครองในส่วนของถือหุ้น ผู้ลงทุนให้มีความมั่นใจในส่วนของผู้ดำเนินกิจการให้มีความซื่อสัตย์ในการประกอบธุรกิจสามารถตรวจสอบได้
ถือได้ว่าบริษัท BHI มี Maturity ในระดับ 4 ขึ้นไป ซึ่งให้คะแนนมากกว่า 4 ในรูป Graphic โดยถ้าเทียบจาก บริษัทอื่นที่ทำธุรกิจในแบบเดียวกันในระดับเดียวกันก็จะพบว่ามี Maturity ใกล้เคียงกัน และผู้บริหารเองต้องการให้ BHI มีMaturity ถึงระดับ 5 
ข้อเสนอแนะ
การนำเสนอรายละเอียดของ COBIT 4.1 .ให้ฝ่าย IT นำไปพิจารณาดูในรายละเอียดของกระบวนการทำงานภาพรวมทั้งหมด โดยสามารถนำไปเป็นแนวทางในการปรับงานให้เข้ากับ COBIT 4.1 ได้ทั้ง 4 โดเมน เนื่องด้วย BHI เองมีกระบวนการทำงานที่ค่อนข้างเป็นมาตรฐานและสอดคล้องกับบางส่วนของกรอบงาน COBIT 4.1 อยู่แล้วด้วย
แหล่งที่มาข้อมูล
                    http://www.itgi.org/
                    http://www.isaca.org